“ในทุกผืนป่า... มีบางที่ที่มนุษย์ไม่ควรเหยียบย่างเข้าไป”
เขาว่ากันว่า... ป่าที่อยู่ลึกจนไม่มีแสงแดดส่องถึง มักเก็บงำ ‘ความลับ’ ไว้มากกว่าที่ตาเห็น
และบางครั้ง... สิ่งที่อยู่ในนั้น อาจไม่ได้อยากให้ใคร ‘กลับออกมา’
เรื่องนี้เกิดขึ้นจริง... ที่หมู่บ้านเล็ก ๆ ในจังหวัดทางเหนือ
เมื่อชายคนหนึ่ง... ได้ยิน ‘เสียงเรียกจากป่า’ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เสียงนั้นเรียกชื่อเขา... เรียกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เหมือนคนคุ้นเคย
จนเขาตัดสินใจ... เดินเข้าไปในป่าต้องห้าม
ตั้งแต่วันนั้น... ก็ไม่มีใครเห็นเขาอีกเลย
ชาวบ้านเรียกมันว่า...
“ศพหลงป่าที่ไม่มีวันกลับ”
EP.1 – เสียงเรียกจากป่า
ลมเย็นๆ พัดผ่านทุ่งหญ้าหลังหมู่บ้าน เสียงจักจั่นร้องระงมเหมือนจะบอกให้คนรีบกลับบ้านก่อนฟ้ามืด
มนตรี ชายหนุ่มวัยยี่สิบปลายๆ เดินเหม่อมองไปทางป่าทึบหลังหมู่บ้าน ดวงตาเขาเหมือนมีบางอย่างดึงดูดเข้าไป
พักหลังมานี้ เขาฝันซ้ำๆ ทุกคืน เห็นตัวเองเดินอยู่ในป่า เสียงผู้หญิงคนหนึ่งเรียกชื่อเขาเบาๆ
เสียงนั้นอ่อนโยน เหมือนคนรู้จักกันมานาน
“มนตรี... มานี่สิ... อย่ากลัวเลย”
พอตื่นขึ้นมา เหงื่อเขาท่วมทั้งตัว ใจเต้นแรงเหมือนเพิ่งหนีอะไรบางอย่างมา
แก้วใจ แฟนสาวของมนตรี เป็นพยาบาลที่โรงพยาบาลอำเภอ พอเห็นแฟนตัวเองเอาแต่เหม่อ ก็เริ่มเป็นห่วง
“ช่วงนี้เป็นอะไรนักหนา ฝันถึงอะไรนักล่ะ” เธอถาม
มนตรีถอนหายใจ บอกแค่สั้นๆ ว่า “เหมือนมีคนเรียกให้เข้าไปในป่า... เสียงมันชัดจนขนลุก”
แก้วใจหัวเราะเบาๆ แต่ในใจเริ่มไม่สบายใจนัก เพราะป่าหลังหมู่บ้านนี้ ไม่ใช่ที่ธรรมดา
ชาวบ้านที่นี่เล่ากันว่า ป่านี้มีผีหลง เป็นวิญญาณคนที่ตายโดยไม่ได้กลับบ้าน
บางคืนจะมีเสียงเรียกชื่อคนเดินผ่าน แล้วคนคนนั้นจะเดินหายเข้าไปในป่า ไม่กลับมาอีกเลย
เย็นวันนั้น ทั้งคู่ไปหา ลุงเปลื้อง ชาวบ้านแก่ๆ ที่อยู่ใกล้ป่า
ลุงเปลื้องนั่งสูบบุหรี่ใบจากอยู่หน้าบ้าน พอมนตรีเล่าเรื่องเสียงที่ได้ยิน แกก็เงียบไปพักใหญ่
ก่อนจะพูดช้าๆ ว่า “อย่าไปยุ่งกับมันเลยหนู... ป่ามันไม่ชอบให้ใครเข้าไป ถ้ามันเรียก แปลว่ามันอยากได้อะไรบางอย่าง”
แก้วใจฟังแล้วขนลุก ส่วนมนตรีกลับยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “ผมอยากรู้ว่ามันเรียกทำไม”
คืนนั้น แก้วใจพยายามกล่อมให้มนตรีล้มเลิกความคิดจะเข้าไปในป่า
แต่เขากลับยิ่งมั่นใจว่า ต้องไปให้ได้ เหมือนมีอะไรบางอย่างผลักดันอยู่ในใจ
“พรุ่งนี้เช้า... ฉันจะเข้าไปดูสักหน่อย แค่ขอบป่าก็พอ” เขาพูดเสียงเรียบ
แก้วใจได้แต่ถอนหายใจ แล้วพูดเบาๆ ว่า “ถ้าเกิดอะไรขึ้น อย่าหาว่าฉันไม่เตือนนะมนตรี”
คืนนั้นทั้งคู่แทบไม่ได้นอน เสียงลมพัดแรงเหมือนพายุจะเข้า
แต่ในเสียงลมนั้น มนตรียังได้ยินเสียงหนึ่งแทรกเข้ามาอีกครั้ง
เสียงผู้หญิงคนเดิม... แผ่วเบาแต่ชัดเจน
“พรุ่งนี้... มาหาฉันนะ”
เขาลืมตาขึ้น มองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นเงาดำของต้นไม้โยกไหว
ในหัวมีแต่คำถามว่า ใครกันแน่... ที่อยู่ในป่านั้น
และเช้าวันต่อมา มนตรีก็เก็บเป้ พร้อมเดินเข้าไปในป่าต้องห้าม โดยมีแก้วใจตามไปด้วย
โดยไม่รู้เลยว่า ก้าวแรกที่เหยียบเข้าไปนั้น... จะไม่มีวันได้กลับออกมาอีก
EP.2 – รอยเท้าที่หายไป
เช้าตรู่ แดดยังไม่ทันขึ้นดี มนตรีกับแก้วใจก็เดินเท้าเข้าสู่ป่าหลังหมู่บ้าน
เสียงนกป่าดังแข่งกับเสียงรองเท้าเหยียบใบไม้แห้ง มีกลิ่นดินชื้นๆ ลอยมาแตะจมูก
แก้วใจพยายามทำใจให้สบาย ถึงจะกลัว แต่ก็ไม่อยากปล่อยให้มนตรีไปคนเดียว
“เดินไม่ต้องลึกมากนะ ฉันไม่อยากอยู่ในนี้นาน” แก้วใจพูดเสียงสั่น
มนตรีพยักหน้า แต่สายตาเขากลับมองไปข้างหน้าเหมือนกำลังตามอะไรบางอย่าง
เดินไปได้สักพัก เสียงในป่าเริ่มเงียบลงจนน่ากลัว
ไม่มีเสียงนก ไม่มีเสียงลม มีแต่เสียงหัวใจเต้นของทั้งคู่
อยู่ๆ มนตรีก็หยุด แล้วพูดเบาๆ ว่า “เธอได้ยินไหม... เสียงเรียกนั่น”
แก้วใจหันมองรอบๆ แต่ไม่เห็นมีอะไร ได้ยินแค่เสียงแผ่วเหมือนคนพึมพำอยู่ไกลๆ
“กลับกันเถอะมนตรี มันไม่ดีแน่ๆ”
แต่เขาไม่ตอบ เดินตามเสียงนั้นเข้าไปเรื่อยๆ
พอถึงลำธารเล็กๆ ทั้งคู่หยุดพัก
มนตรีนั่งมองน้ำไหล แล้วพูดเบาๆ เหมือนพูดกับใครอีกคน “ฉันมาถึงแล้วนะ”
แก้วใจได้ยินชัด รีบหันมามอง “พูดกับใคร?”
มนตรีหันมาช้าๆ ตาเขาแดงเหมือนไม่ได้นอน “ไม่รู้สิ... เหมือนเธออยู่แถวนี้”
พอตกเย็น แก้วใจชวนตั้งเต็นท์นอน พอค่ำป่าก็เงียบผิดปกติ
เธอนอนไม่หลับ ได้ยินเสียงอะไรเหมือนคนเดินวนรอบเต็นท์
แผ่วเบา แต่ชัดเจน... เสียงฝีเท้าช้าๆ
แก้วใจเอื้อมมือไปปลุกมนตรี แต่ที่นอนข้างๆ ว่างเปล่า
เธอผุดลุกขึ้นมา เรียกชื่อเขาเสียงดัง “มนตรี! มนตรีอยู่ไหน!”
ไม่มีเสียงตอบ มีแต่เสียงฝีเท้าที่เดินห่างออกไปเรื่อยๆ
เธอหยิบไฟฉายวิ่งตามไปจนถึงต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง
ตรงหน้ามีรองเท้าของมนตรีวางอยู่คู่หนึ่ง แต่ไม่มีตัวเขา
รอยเท้าที่เดินออกไปจากรองเท้านั้น จางหายไปกลางอากาศ เหมือนคนเดินแล้วลอยขึ้นไป
แก้วใจยืนตัวแข็ง มือสั่น หายใจไม่ทั่วท้อง
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงผู้หญิงพูดอยู่ข้างหู
เสียงนุ่มแต่เย็นจับใจ “อย่าตามเขาไป... เขาเลือกแล้ว”
เธอหันขวับไปดู แต่ไม่เห็นใคร มีเพียงเงาของหญิงในชุดขาวยืนอยู่ใต้ต้นไม้
ผมยาวปิดหน้า ค่อยๆ หันมาช้าๆ
แก้วใจตกใจสุดขีด ร้องเสียงหลง แล้ววิ่งกลับไปที่เต็นท์ แต่กลับหลงทาง เดินวนอยู่ที่เดิม
คืนนั้นทั้งป่ามืดสนิท เหมือนเวลาหยุดเดิน
มีเพียงเสียงลมหายใจของแก้วใจ กับเสียงผู้หญิงหัวเราะเบาๆ ลอยมาตามลม
“เขาอยู่กับฉันแล้ว... เธอกลับไปเถอะ”
EP.3 – ศพหลงป่าที่ไม่มีวันกลับ
เช้าวันต่อมา แสงแดดลอดผ่านยอดไม้ แก้วใจนอนหมดสติอยู่ข้างลำธาร
ร่างเปียกชื้น หน้าซีดเหมือนคนตายมาแล้วคืนหนึ่ง
พอลืมตาขึ้น เธอเห็นหมอกขาวลอยคลุ้งเต็มไปหมด รอบตัวไม่มีเสียงนก ไม่มีเสียงแมลง
เหมือนทั้งป่ากำลังกลั้นหายใจ
เธอตะโกนเรียกชื่อมนตรีอีกครั้ง แต่เสียงสะท้อนกลับมาซ้ำๆ เหมือนพูดกับตัวเอง
“มนตรี... มนตรี...”
เสียงเรียกนั้นค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นเสียงผู้หญิง เสียงเดียวกับเมื่อคืน
“เขาไม่ใช่ของเธออีกต่อไป...”
แก้วใจเริ่มวิ่ง วิ่งสุดแรง เหมือนหนีจากฝันร้าย
แต่ไม่ว่าจะวิ่งไปทางไหน ก็กลับมาที่เดิม ต้นไม้ใหญ่ต้นนั้น
ใต้ต้นไม้ มีกองดินใหม่ๆ คล้ายหลุมศพตื้นๆ
บนกิ่งไม้สูง มีเสื้อของมนตรีแขวนอยู่ ปลิวเบาๆ ตามแรงลม
เธอทรุดตัวลงร้องไห้ “มนตรี... อยู่ไหน”
แล้วเสียงของเขาก็ดังขึ้นจากในหลุม
“แก้วใจ... อย่าร้อง...”
เธอผงะถอยหลัง น้ำตาไหลพราก
เสียงนั้นนุ่มนวล แต่แผ่วเบาเหมือนมาจากโลกอีกฝั่ง
จากนั้นเสียงฝีเท้าเบาๆ ดังขึ้นข้างหลัง
หญิงชุดขาวค่อยๆ เดินออกมาจากเงาไม้
เธอมองแก้วใจด้วยสายตาเศร้า แล้วพูดว่า
“เขาเลือกจะอยู่ที่นี่... ที่ที่ไม่มีความเจ็บปวด ไม่มีการจากลา”
แก้วใจพยายามลุกขึ้น แต่ขาไม่ขยับ เหมือนมีมือเย็นๆ จับไว้จากใต้ดิน
เธอกรีดร้องสุดเสียง แต่ภาพทุกอย่างรอบตัวเริ่มบิดเบือน
ต้นไม้โยกไหว ลมแรงขึ้นจนหมอกกระจาย
แล้วทุกอย่างก็ดับวูบ...
เธอฟื้นขึ้นมาอีกที อยู่หน้าป่ากับชาวบ้านที่มาช่วยหา
ลุงเปลื้องเป็นคนอุ้มเธอออกมาเอง เขาถามว่า “เห็นมันไหม มนตรีอยู่ไหน”
แก้วใจพูดเสียงสั่น “เขาอยู่ในนั้น... เขาไม่อยากกลับมา”
ลุงเปลื้องหน้าซีด รีบพาชาวบ้านกลับออกมา
แต่ก่อนเดินพ้นแนวป่า แก้วใจได้ยินเสียงลมหายใจใกล้หูอีกครั้ง
เสียงมนตรี...
“อย่าร้องนะ... ฉันยังอยู่ตรงนี้”
เธอหันกลับไป เห็นเงาของเขายืนอยู่ไกลๆ ใต้ต้นไม้ใหญ่
ยกมือขึ้นเหมือนจะโบกลา ก่อนค่อยๆ จางหายไปกับหมอก
หลังจากนั้นไม่มีใครกล้าเข้าไปในป่านั้นอีก
บางคืน ชาวบ้านยังคงได้ยินเสียงผู้ชายเรียกชื่อ “แก้วใจ” มาจากในป่า
เบาๆ แผ่วๆ เหมือนลมพัดผ่านใบไม้
ลุงเปลื้องเล่าในภายหลังว่า ป่านี้เคยมีเรื่องแบบนี้มาก่อน
ทุกสิบปี... จะมีใครบางคนถูกป่า “เลือก”
ไม่ว่าจะเข้าไปเพราะฝัน เสียงเรียก หรือความอยากรู้
สุดท้ายก็ไม่มีวันกลับออกมา
เรื่องนี้จบลงด้วยภาพหมอกควันลอยคลุมยอดไม้
และเสียงผู้หญิงคนหนึ่งกระซิบเบาๆ ว่า
“ในป่านี้... ไม่มีใครตายจริงๆ
มีแต่คน... ที่ยังหลงอยู่...”

Social Plugin