ฟังเรื่องเล่าผี ศาลแม่ตะเคียนทอง

 

ฟังเรื่องเล่าผี ศาลแม่ตะเคียนทอง

ศาลแม่ตะเคียนทอง – EP.1 “เสียงเรียกจากต้นตะเคียน”

ลมเย็นๆ พัดผ่านท้องทุ่งนา กลางคืนในหมู่บ้านหนองตะเคียนมันเงียบจนได้ยินเสียงจิ้งหรีดร้องแข่งกัน
ไอ้หมาในบ้านเห่าขึ้นมาที คนก็สะดุ้งกันทั้งซอย เพราะที่นี่…มันไม่เหมือนหมู่บ้านอื่น

พิมพ์ หญิงสาววัยยี่สิบปลายๆ กลับมาบ้านเกิดหลังจากไปเรียนในเมืองหลายปี
บ้านยายอยู่ท้ายหมู่บ้าน ใกล้กับวัด และไม่ไกลจาก “ต้นตะเคียนทอง” ที่คนทั้งหมู่บ้านพูดถึงกันนักหนา

ยายสำเนียง ยายของพิมพ์ นั่งพับผ้าหน้าบ้าน เห็นหลานเดินเข้ามาก็ยิ้ม
“อ้าวพิมพ์…กลับมาถึงแล้วเหรอลูก เหนื่อยมั้ย”
“ไม่เหนื่อยจ้ะยาย แต่ตอนเข้าหมู่บ้านนะ เหมือนมีคนเรียกชื่อพิมพ์เบาๆ แปลกๆ”
ยายสำเนียงหยุดมือทันที มองหน้าหลานนิ่ง
“อย่าไปพูดเสียงดังนะลูก แถวนี้เขาว่ามีผีแม่ตะเคียนทองสิงอยู่ในต้นไม้หลังวัด”

พิมพ์หัวเราะเบาๆ
“ยายจะบอกว่าผีตะเคียนทองเหรอ เดี๋ยวนี้ยังมีคนเชื่ออยู่เหรอ”
ยายสำเนียงพูดเสียงเบา
“เอ็งไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ ของพวกนี้มันอยู่ของมันมานานแล้ว”

คืนนั้น พิมพ์นอนในห้องเก่าที่เคยใช้ตอนเด็กๆ
ลมพัดแรงจนหน้าต่างสั่น เธอพลิกตัวจะปิด แต่ทันใดนั้น
ได้ยินเสียงเหมือนผู้หญิงร้องไห้เบาๆ มาจากทางวัด
เสียงนั้นคล้ายอยู่ใกล้มาก จนพิมพ์ขนลุกซู่

เธอเปิดหน้าต่างมองออกไป เห็นเพียงเงาดำของต้นตะเคียนใหญ่ ยืนเด่นอยู่กลางแสงจันทร์
พิมพ์พยายามมองอีกที เหมือนเห็นเงาผู้หญิงผมยาวยืนอยู่ใต้ต้นไม้
พอเธอกะพริบตา เงานั้นก็หายไป

รุ่งเช้า ชาวบ้านมานั่งรวมกันหน้าศาลาวัด คุยกันเรื่องเมื่อคืน
“เมื่อคืนได้ยินเสียงร้องไหม เหมือนผู้หญิงไห้เลย”
“นั่นแหละ ผีแม่ตะเคียนทอง เขาอยากได้คนช่วยหรือเปล่าก็ไม่รู้”

ผู้ใหญ่ชิดเดินมาด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์
“พวกเอ็งนี่ก็พูดกันแต่เรื่องงมงาย ข้าจะตัดต้นตะเคียนนั่นทิ้ง จะได้สร้างรีสอร์ตให้มันเจริญซะที”
ยายสำเนียงรีบพูดแทรก
“อย่าทำนะผู้ใหญ่ เดี๋ยวเรื่องจะไม่ดี”
“ดีไม่ดี ข้าก็จะตัด ใครจะว่าไงก็ช่าง!”

พิมพ์ได้ยินแบบนั้นก็ใจไม่ดี เพราะในใจลึกๆ ยังจำเสียงเมื่อคืนได้ดี
ตกเย็น เธอเดินไปหลังวัด เห็นศาลเก่าๆ อยู่ใต้ต้นตะเคียนทอง
ศาลนั้นเต็มไปด้วยพวงมาลัยแห้งๆ กับน้ำแดงวางอยู่หลายขวด

พิมพ์ยกมือไหว้เบาๆ แล้วพูดพึมพำ
“ถ้ามีจริง…อย่าทำร้ายใครเลยนะคะ”

คืนนั้นเธอกลับมานอน แต่พอหลับไปไม่นาน
ก็ฝันเห็นหญิงสาวนุ่งผ้าแพรสีทอง ยืนอยู่ริมสระน้ำ
หญิงคนนั้นพูดเสียงเศร้าๆ
“ช่วยข้าด้วย... อย่าให้พวกเขาตัดต้นของข้า...”

พิมพ์สะดุ้งตื่น เหงื่อท่วมตัว หัวใจเต้นแรง
เสียงลมพัดแรงเข้ามาทางหน้าต่างอีกครั้ง
และในเงามืด เธอเหมือนเห็นเงาผู้หญิงผมยาวยืนอยู่ตรงนั้น...



ศาลแม่ตะเคียนทอง – EP.2 “ความลับในคำสาป”

หลังคืนนั้น พิมพ์ยังจำฝันได้ชัดเจน
ภาพหญิงสาวในชุดผ้าแพรทองยังวนเวียนอยู่ในหัว
ทั้งน้ำเสียง ทั้งสายตา มันเศร้าจนเธอรู้สึกเหมือนต้องช่วยอะไรบางอย่าง

เช้าวันนั้น เธอถามยายสำเนียงว่า
“ยาย ยายรู้เรื่องแม่ตะเคียนทองมั้ย ที่อยู่หลังวัดน่ะ”
ยายสำเนียงถอนหายใจยาว ก่อนพูดช้า ๆ
“รู้สิลูก... แม่ศรีทองคำ เขาเป็นคนจริง ๆ มาก่อน ไม่ใช่ผีมาตั้งแต่แรก”

พิมพ์ทำหน้างง
“ศรีทองคำ? ใครเหรอยาย”

ยายเล่าเสียงเบา เหมือนกลัวคนได้ยิน
“เมื่อร้อยปีก่อน มีหญิงสาวชื่อศรีทองคำ สวยนักหนา เป็นคนใจดี แต่โดนคนใส่ร้ายว่าขโมยของในวัด ทั้งที่ไม่ได้ทำ เขาเลยโดนลงโทษ ถูกมัดไว้กับต้นตะเคียนนั่น แล้วก็หายไปทั้งคน”
“หลังจากนั้นไม่นาน คนที่ใส่ร้ายเขาก็ตายกันแปลก ๆ ทีละคน”
“ตั้งแต่นั้น ชาวบ้านเลยตั้งศาลให้ เพื่อขอขมาวิญญาณแม่ตะเคียนทอง”

พิมพ์ฟังแล้วใจสั่น เพราะชื่อ “ศรีทองคำ” มันตรงกับเสียงที่เธอได้ยินในฝัน
เธอเริ่มมั่นใจ ว่าวิญญาณที่มาหาคือแม่ศรีทองคำนั่นแหละ

ตอนบ่าย พิมพ์เดินไปหาหมอชาญ คนแก่ในหมู่บ้านที่ชอบดูดวง
“หมอชาญคะ หนูอยากรู้เรื่องแม่ตะเคียนทอง”
หมอชาญมองหน้าแล้วพูดเสียงเรียบ
“หนูเห็นเขาแล้วใช่ไหม”
พิมพ์ตกใจ “รู้ได้ยังไงคะ?”
หมอชาญหัวเราะเบา ๆ
“ถ้าเขาเลือกจะให้เห็น แปลว่าเขาไว้ใจ แต่ก็แปลว่ามีเรื่องต้องสะสาง”

พิมพ์เล่าเรื่องความฝันให้ฟัง
หมอชาญนิ่งไปพักหนึ่งก่อนพูด
“แม่ศรีทองคำไม่ได้อยากทำร้ายใคร เขาแค่ต้องการให้ความจริงปรากฏ ว่าเขาไม่ผิด”

ระหว่างนั้น ผู้ใหญ่ชิดก็กำลังวางแผนจะตัดต้นตะเคียน
เขาสั่งคนเอาเครื่องจักรมาตั้งไว้ริมสระ
พอเครื่องติดปุ๊บ มันก็ดับปั๊บ เสียงมอเตอร์ดังแล้วหยุด เหมือนมีคนดึงสายไฟไว้
คนงานกลัว วิ่งหนีกระเจิงกันหมด
แต่ผู้ใหญ่ชิดยังไม่ยอม บอกเสียงดัง
“ผีบ้าผีบออะไร กูไม่กลัว!”

คืนนั้นเอง ไอ้ดล หนุ่มในหมู่บ้านที่เคยช่วยงานวัด ฝันเห็นหญิงผมยาวชุดทอง
เธอมองหน้าเขาแล้วพูดเบา ๆ
“อย่าล่วงเกินที่ของข้า...”
พอตื่นมา เหงื่อแตกเต็มตัว เสียงลมพัดแรงทั้งคืน

พิมพ์ได้ยินเรื่องจากไอ้ดลกับยายสำเนียง ก็เริ่มรู้ว่าทุกอย่างมันเชื่อมโยงกันหมด
เธอไปค้นของเก่าในห้องยาย แล้วเจอรูปเก่าขาวดำ
ในรูปเป็นหญิงสาวผมยาว ใส่ชุดไทยเรียบ ๆ
ข้างใต้เขียนว่า “ศรีทองคำ”

พิมพ์จ้องรูปนั้นอยู่นาน แล้วใจสั่นอีกครั้ง
หญิงในรูปหน้าเหมือนผู้หญิงในฝันไม่มีผิด

พอเธอเอารูปให้ยายดู ยายหน้าซีด
“รูปนี้อยู่ในบ้านเราตั้งแต่รุ่นปู่ของเอ็ง...”
“หมายความว่ายังไงยาย?”
ยายพูดเสียงสั่น
“ปู่ของเอ็ง... คือหนึ่งในคนที่ใส่ร้ายแม่ศรีทองคำ”

พิมพ์ยืนนิ่ง เหมือนฟ้าผ่าลงกลางอก
เธอไม่รู้ว่าความจริงนี้จะนำไปสู่อะไร
แต่เสียงลมที่พัดผ่านหน้าต่างในคืนนั้น
กลับแฝงกลิ่นดอกจำปีหอมแรงขึ้นกว่าเดิม

แล้วเสียงผู้หญิงหวีผมเบา ๆ ก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“ความจริง... มันยังไม่จบหรอกหนูพิมพ์...”

ศาลแม่ตะเคียนทอง – EP.3 “คำอธิษฐานของแม่ศรีทองคำ”

เช้าวันต่อมา หมู่บ้านหนองตะเคียนเริ่มไม่ปกติ
ลมพัดแรงตั้งแต่เช้ามืด ใบไม้ปลิวว่อน ท้องฟ้ามืดคล้ำทั้งที่แดดยังไม่ขึ้น
พิมพ์รู้สึกได้ ว่ามีอะไรบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น

ผู้ใหญ่ชิดยังคงดื้อ เขาสั่งคนให้เริ่มตัดต้นตะเคียนทันที
เสียงเครื่องยนต์ดังสนั่น ลั่นไปทั่ววัด
ชาวบ้านหลายคนไม่กล้าเข้าใกล้
ยายสำเนียงพึมพำเสียงเบา
“อย่าทำเลยลูก มันจะไม่ดี...”

แต่ไม่มีใครฟัง

ทันใดนั้น เสียงเครื่องตัดต้นไม้ดังแปลก ๆ แล้วก็หยุดลง
คนงานหงายหลังล้มกลิ้ง น้ำจากสระกระฉอกขึ้นมาราวกับมีคนเหวี่ยงน้ำแรง ๆ
ท้องฟ้ามืดลงในพริบตา เสียงฟ้าร้องดังจนพื้นสั่น
พิมพ์วิ่งมาถึงพอดี เห็นผู้ใหญ่ชิดยืนอยู่หน้าศาล
แสงสีทองวาบออกมาจากต้นตะเคียนราวกับเปลวไฟ

เธอร้องลั่น “หยุดนะผู้ใหญ่! อย่าทำอีกเลย!”
แต่ผู้ใหญ่ชิดไม่ฟัง ยกขวานขึ้นเตรียมฟัน
ทันใดนั้น... ลมแรงจัดจนต้นไม้ทั้งแถบเอนไปตามแรง
เสียงผู้หญิงหัวเราะเบา ๆ ดังขึ้นทั่วทั้งลานวัด

เงาของหญิงสาวผมยาวในชุดทองค่อย ๆ ปรากฏตรงหน้าทุกคน
รอบตัวเธอมีแสงสีทองส่องเหมือนละอองฝุ่นในอากาศ
ใบหน้าเธอสวยสง่า แต่ดวงตาเต็มไปด้วยความเศร้า

“เจ้าลืมคำบรรพบุรุษไปแล้วหรือ... เจ้าชิด...”
เสียงนั้นดังพร้อมสายลมจนทุกคนคุกเข่าลงโดยไม่รู้ตัว

ผู้ใหญ่ชิดหน้าเสีย มือสั่น ขวานหล่นกระแทกพื้น
เขาตะโกนลั่น “ข้า... ข้าไม่รู้ ข้าแค่จะสร้างที่พัก มันไม่เกี่ยวกับข้า!”
แม่ศรีทองคำพูดช้า ๆ น้ำเสียงเยือกเย็น
“บรรพบุรุษของเจ้าคือคนที่ใส่ร้ายข้า... วิญญาณข้าถูกผูกไว้ที่นี่ ข้ารอวันหนึ่งที่ใครสักคนจะคืนความจริงให้”

พิมพ์รีบก้าวเข้ามา
“แม่ศรีทองคำ หนูรู้แล้วค่ะ หนูจะช่วย หนูจะทำให้ทุกคนรู้ความจริงเอง!”
เธอหันไปหาผู้ใหญ่ชิด
“คุณต้องยอมรับความผิดในอดีต ถึงแม้จะไม่ใช่คุณที่ทำ แต่คุณคือคนสืบเชื้อสาย คุณต้องขอขมา”

ผู้ใหญ่ชิดตัวสั่น น้ำตาไหล พนมมือไหว้
“ข้าผิด... ข้าขอขมา... ข้าขอโทษแทนคนในตระกูลข้า...”

ทันใดนั้น เสียงลมสงบลง
แสงทองรอบตัวแม่ศรีทองคำค่อย ๆ จางหาย
เธอยิ้มบาง ๆ มองหน้าพิมพ์
“ขอบใจนะลูก ที่เชื่อข้า...”
แล้วเธอก็หันไปมองต้นตะเคียน
“ตั้งแต่นี้... ข้าจะได้พักเสียที”

สายลมสุดท้ายพัดเบา ๆ กลีบดอกจำปีร่วงลงมาจากฟ้า ทั้งที่ไม่มีต้นจำปีอยู่เลย
เสียงหญิงหวีผมแผ่วเบาดังเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเงียบหาย

วันรุ่งขึ้น ท้องฟ้าเปิด แสงแดดส่องเข้ามาทั่วหมู่บ้าน
ชาวบ้านช่วยกันบูรณะศาลแม่ตะเคียนทองใหม่ วางผ้าแพรสีทองและพวงมาลัยสดไว้เต็มศาล
ผู้ใหญ่ชิดเปลี่ยนไป กลายเป็นคนอ่อนน้อม ทำบุญทุกเดือน
ยายสำเนียงบอกพิมพ์ว่า
“ทุกอย่างมันผ่านไปแล้วลูก แม่ศรีทองคำเขาได้ไปสู่ที่ดีแล้ว”

พิมพ์ยกมือไหว้ศาล มองแสงแดดที่สะท้อนผ้าแพรสีทอง
แต่ทันใดนั้น เธอได้กลิ่นดอกจำปีโชยมาเบา ๆ

เสียงหวีผมแผ่ว ๆ ดังขึ้นในสายลม
พร้อมเสียงผู้หญิงพูดเบา ๆ ข้างหู

“ข้าจะเฝ้าที่นี่... ตราบใดที่คนยังไม่ลืมข้า...”

ภาพสุดท้าย กล้องซูมออกจากศาล
แสงแดดสะท้อนศาลทองจนสว่างไปทั้งจอ

เสียงลมพัด... และเงาของหญิงสาวผมยาวค่อย ๆ ผ่านหน้ากล้อง